Section 48 Bar คืออะไร?

December 26, 2024

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า Section 48 Bar แต่ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ทำไมบางครั้งเราต้องออกนอกประเทศออสเตรเลียเพื่อยื่นวีซ่าใหม่ วันนี้บีจะมาสรุปให้เข้าใจง่ายๆ กันค่ะ

Section 48 Bar คืออะไร?

Section 48 bar หรือว่า มาตรา 48 เป็นข้อกำหนดทางกฎหมาย immigration ของออสเตรเลียที่ระบุว่า:

- ผู้สมัครวีซ่าที่ถูกปฏิเสธ (Refused) หรือถูกยกเลิก (Cancelled) วีซ่า ขณะอยู่ในออสเตรเลียและ

- ในระหว่างที่วีซ่าถูกปฏิเสธ (Refused) หรือ ถูกยกเลิก (Cancelled) นั้น ผู้สมัคร ไม่ได้ถือ Substantive Visa อย่างเช่น Bridging Visa เป็นต้น (Substantive Visa เช่น Student Visa, Work Visa)

ผู้สมัครจะไม่สามารถยื่นขอวีซ่าใหม่ภายในประเทศออสเตรเลียได้ ยกเว้นในบางกรณีที่กฎหมายยกเว้นค่ะ

ตัวอย่างของการติด Section 48 Bar

น้องบี ซึ่งอยู่ในประเทศออสเตรเลียยื่นต่อ Temporary Graduate visa - Subclass 485  แต่ถูกปฏิเสธในช่วงที่วีซ่าถูกปฎิเสธนั้น น้องบีถือแค่ Bridging Visa ซึ่งไม่ใช่วีซ่าหลัก นั่นทำให้น้องบีติด Section 48 Bar ทันที ส่งผลให้ไม่สามารถยื่นขอวีซ่าอื่นๆ ภายในประเทศได้ น้องบีจึงไม่สามารถยื่นวีซ่าใหม่ได้ภายในประเทศ และต้องเดินทางออกนอกประเทศเพื่อทำการยื่นขอวีซ่าใหม่ เช่น วีซ่าสปอนเซอร์นายจ้าง Subclass 482 Skills in Demand เป็นต้น

อย่างไรก็ตามเมื่อวีซ่าตัวใหม่นี้ได้รับการอนุมัติจากนอกประเทศแล้ว น้องบีก็สามารถเดินทางกลับเข้ามาออสเตรเลียได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และกลับมาดำเนินการทำงานหรือศึกษาได้ต่อไปตามเงื่อนไขของวีซ่าใหม่ค่ะ

การติด Section 48 Bar ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางออก เพียงแต่ผู้สมัครต้องเข้าใจวิธีการแก้ไขและวางแผนการยื่นวีซ่าอย่างเหมาะสม โดยอาจต้องขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าวีซ่าที่สมัครใหม่มีความถูกต้องและมีโอกาสอนุมัติสูงสุดค่ะ

Section 48 Bar จะไม่บังคับใช้ในกรณีใดบ้าง?

1. กรณีที่ใบสมัครเป็นโมฆะ (Invalid Application)

เช่น กรอกฟอร์มไม่ถูกต้อง, จ่ายค่าธรรมเนียมไม่ครบ หรือเอกสารไม่ตรงตามที่กำหนด ใบสมัครถือเป็นโมฆะ ไม่ใช่การถูกปฏิเสธ ดังนั้น Section 48 Bar จะไม่ถูกบังคับใช้ค่ะ

2. หากยังถือ วีซ่าหลัก ที่ยังไม่หมดอายุ

ตัวอย่างเช่น น้องบียื่นต่อ Temporary Graduate visa - Subclass 485 แล้วถูกปฏิเสธ แต่ตอนที่วีซ่าถูกปฎิเสธนั้น วีซ่านักเรียนตัวเก่าของน้องบี ยังไม่หมดอายุ น้องบีสามารถยื่นขอวีซ่าใหม่ภายในประเทศได้ค่ะ

3. ข้อยกเว้นสำหรับบางประเภทวีซ่า

แม้จะติด section 48 bar ผู้สมัครจะยังสามารถยื่นวีซ่าประเภทต่อไปนี้ได้ภายในประเทศออสเตรเลีย:

- Partner visa subclass 820/801

- Child visa Subclass 802

- Medical Treatment visa Subclass 602

- Border visa Subclass 773

- Special Category visa Subclass 444

- Bridging A Subclass 010

- Bridging B Subclass 020

- Bridging C Subclass 030

- Bridging D Subclass 041

- Bridging E Subclass 050/051

- Skilled--Nominated (Permanent) Subclass 190

- Skilled Work Regional (Provisional) Subclass 491

- Skilled Employer Sponsored Regional (Provisional) Subclass 494

ในบางกรณี ผู้สมัครสามารถยื่นคำขอพิเศษให้พิจารณายกเว้น Section 48 Bar ได้ โดยจะต้องแสดงหลักฐานที่ชัดเจนถึง เหตุผลที่น่าสงสารและน่าเห็นใจ เช่น:

- ปัญหาสุขภาพ

- เหตุผลทางครอบครัวหรือความปลอดภัย

อย่างไรก็ตามการพิสูจน์เหตุผลเหล่านี้อยู่ในดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ immigration ดังนั้นการเตรียมเอกสารและหลักฐานที่สมบูรณ์เป็นสิ่งสำคัญค่ะ

แก้ไขปัญหา Section 48 Bar อย่างไร?

1. ยื่นวีซ่าจากนอกประเทศ (Offshore):

- ผู้สมัครสามารถเดินทางออกนอกออสเตรเลียเพื่อยื่นวีซ่าตัวใหม่ได้

2. ยื่นขอ Bridging Visa B (BVB):

- หากกำลังรอผลอุทธรณ์กับ Administrative Review Tribunal (ART) และ ถือ Bridging Visa A อยู่ คุณสามารถขอ Bridging Visa B เพื่อเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อทำการยื่นวีซ่าตัวใหม่ และ เดินทางกลับมารอผลวีซ่าตัวใหม่ ภายในประเทศได้ค่ะ

3. ยื่นอุทธรณ์การถูกปฎิเสธ หรือ ถูกยกเลิกวีซ่า ต่อ ART:

- หากเห็นว่าการตัดสินไม่เป็นธรรม ผู้สมัครสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อ ART ซึ่ง ART จะพิจารณาใบสมัครใหม่ทั้งหมด และสามารถกลับคำตัดสินหรือสั่งให้ immigration พิจารณาใบสมัครใหม่ได้ค่ะ

สรุปสั้นๆ สำหรับ Section 48 Bar:

Section 48 Bar มีผลกับผู้ที่ถูกปฏิเสธหรือยกเลิกวีซ่าขณะอยู่ในออสเตรเลีย และ ในระหว่างที่วีซ่าถูกปฎิเสธ หรือยกเลิกนั้นไม่ได้ถือวีซ่าหลักอยู่ แต่ยังมีทางเลือกและข้อยกเว้นที่สามารถใช้ได้หากเข้าใจเงื่อนไขและวางแผนอย่างถูกต้องค่ะ

หากคุณติด Section 48 Bar หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการยื่นวีซ่าใหม่ ทีมงาน JB Migration Australia พร้อมให้คำแนะนำและช่วยเหลือทุกขั้นตอน ค่ะ

Bea Lapwongpaiboon

MARN 2418620

ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลทั่วไปและไม่ได้เป็นคำแนะนำทางกฎหมาย โปรดปรึกษา registered migration agent ก่อนดำเนินการสมัครใดๆ